เทศน์เช้า วันที่ ๒๖ กันยายน๒๕๕๘
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต
ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
ตั้งใจฟังธรรม ตั้งใจฟังธรรมนะ เวลาฟังธรรมะ ดูสิ เวลาเขาแสวงหาทำบุญกัน ทำบุญกัน ดูสิ ทางพม่าเขาเรียก นัด นัดคือการทรงเจ้า ของเราศาสนาดั้งเดิมของชาวโลกคือศาสนาถือผี ถ้าถือผีถือสาง การเข้าทรงทรงเจ้าการเข้าทรงทรงเจ้ามันเป็นความเชื่อ เพราะเราไม่มีที่พึ่งไง
แต่เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมขึ้นมาแล้วนะ เธออย่าคร่ำครวญอย่าร้องไห้ ถ้ามีญาติของเราพลัดพรากไปอย่าคร่ำครวญอย่าร้องไห้ ให้ทำคุณงามความดีถึงกัน คุณงามความดี ความดีของหัวใจของเรา อุทิศส่วนกุศลของเรา
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังไม่ตรัสรู้ธรรมขึ้นมาคนกราบภูเขากราบไฟ กราบต่างๆ บูชา บูชาเพราะไม่มีที่พึ่งไง เพราะไม่มีที่พึ่งถึงได้ไปบูชาสิ่งภายนอกเวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมขึ้นมาปฏิเสธหมดเลยเทวดา อินทร์พรหมฟังเทศน์องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สาธุการสาธุการ เพราะเทวดา อินทร์พรหมเขายังต้องเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ
เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมขึ้นมา ฟังธรรมๆ ธรรมอันนี้ ธรรมอันนี้ นายช่างใหญ่ นายช่างใหญ่คืออวิชชา เราได้ทำลายเรือนยอดของเธอแล้วความโลภ ความโกรธ ความหลงเรือน ๓ หลัง รวมยอดเป็นยอดหนึ่งคือนายช่างใหญ่
นายช่างใหญ่ได้ก่อร่างสร้างเรือนในภวาสวะ ในภพในภพ ในชาติในภวาสวะ ในจิต มันพาจิตนี้เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะไงนายช่างใหญ่เราได้หักเจ้าแล้วเจ้าเกิดอีกไม่ได้เลยในหัวใจของเรา นี่ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามันเหนือโลก เหนือโลกอย่างนี้ ถ้าเหนือโลกอย่างนี้แล้วมันจะไปคร่ำครวญ ไปอ้อนวอนจากใครล่ะ เราอ้อนวอนจากใครสิ่งใดๆ ไม่ได้ทั้งสิ้น เราต้องทำของเราเองทั้งนั้น ถ้าเราทำเองทั้งนั้น
ธรรม ดูสิธรรมภายนอกธรรมภายใน ถ้าธรรมภายนอกดูสิ เราเห็นโลกธรรม ๘ มีลาภเสื่อมลาภ มียศเสื่อมยศ มียศถาบรรดาศักดิ์ มีลาภสักการะ มีข้าวของเงินทองเราว่าสิ่งนั้นเป็นบุญของเขาไง
มันเป็นอำนาจวาสนาของคนนะอำนาจวาสนาของคน เวลามีลาภเสื่อมลาภ มียศเสื่อมยศอนาถบิณฑิกเศรษฐีเป็นมหาเศรษฐีนะ เอาเงินปูซื้อที่ให้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่เวลาเวรกรรมมาถึง ทรัพย์สมบัติที่ฝังไว้ เวลาน้ำขึ้นมันเซาะไปหมด เพราะเขาฝังดินไว้ หมดเนื้อหมดตัวเลย
แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เวลาเขาทำบุญกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คนมีแต่ติเตียน ดูสิ เศรษฐีมหาเศรษฐีทำจนหมดเนื้อหมดตัวแล้วเขาเป็นพระโสดาบัน เวลามีพระมาก็อยากจะใส่บาตรๆ มีพระมาก็อยากจะให้ทั้งๆ ที่ตัวไม่มีจะกินก็อยากจะให้คนจนเขากินข้าวกับน้ำผักดองข้าวแล้วผสมน้ำผักดอง เห็นพระมาก็ถวายพระ
จนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าห้ามไง ถ้าเขาเป็นอเสขบุคคล ห้ามเข้าไปในบ้านเขา เพราะมีเท่าไรเขาก็ให้หมดไง ห้ามเลยเว้นไว้แต่เขาออกมาใส่บาตรเอง แต่เขาเป็นอเสขบุคคลตั้งแต่เป็นอริยบุคคลขึ้นไปห้ามไปบิณฑบาตบ้านเขา ห้ามไปขอเขา เพราะเขามีเท่าไรเขาให้หมด นี่ถ้ามันเป็นความจริงสุดท้ายแล้วบุญกุศลก็ฟื้นกลับมาอนาถบิณฑิกเศรษฐีก็ได้ทรัพย์สมบัติกลับมาอันนั้นมันเป็นเวรเป็นกรรมของคนถ้าโลกธรรม ๘ มีลาภเสื่อมลาภ มียศเสื่อมยศ
เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเยาะเย้ยมารๆ นายช่างใหญ่ที่เราได้หักเรือนยอดของเธอแล้ว
มนุษย์เกิดมาจากไหนเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะนี้มาจากไหน นายช่างใหญ่ นายช่างใหญ่มันปั้นให้เรามา เราจะไปอ้อนวอนเอาจากใคร จะไปเชื่อใคร จะไปอ้อนวอนเอาจากใคร เขาจะช่วยเหลือสิ่งใดเราได้ มันเป็นสมบัติของเรา สมบัติของเรามีมากมีน้อยเท่าไรมันก็เป็นสมบัติของเรา ถ้าสมบัติของเรา
เราเกิดมาแล้ว ในทางโลก เราทำสิ่งใดประสบความสำเร็จ อำนาจวาสนานะ วาสนาของคนมันแข่งกันไม่ได้ คำว่าแข่งขันกันไม่ได้ เพราะอะไรเพราะเขาทำของเขามา ถ้าเราไม่ได้ทำมา บัญชีเราไม่มี จะเบิกๆโธ่! ของเขามีบัตรเครดิต ๒๐ใบ เขารูดปรื๊ดๆๆ เลย ไอ้เราไม่มีสักใบแล้วก็มานั่งคร่ำครวญว่าเราทุกข์เรายาก
เราทุกข์เรายากเพราะเราไม่ได้ทำมาเราไม่มีเครดิตเราไม่สามารถออกบัตรได้ เราไม่สามารถรูดได้รูดแล้วก็เป็นหนี้ด้วย แต่ของเขาเขามีสมบัติของเขา เขาทำของเขา
นี่เหมือนกัน เวลามันขึ้นอำนาจวาสนาของคน นายช่างใหญ่ นายช่างใหญ่ นายช่างน้อย นายช่างที่ฉ้อฉล นายช่างที่ฉ้อฉล กิเลสตัณหาความทะยานอยากเวลามันสร้างเรือนบนหัวใจของเรา มันทำให้เราคิดร้อยแปดพันเก้า มันสร้างแต่ความพอใจของมัน กิเลสตัณหาความทะยานอยากมันยุมันแหย่ มันพยายามกระตุ้นเราให้เราทำ พอทำเสร็จแล้ว ทำตามสนองกิเลสตัณหาความทะยานอยาก พอทำสนองกิเลสตัณหาความทะยานอยากกิเลสมันสมใจมันแล้ว พอสมใจแล้วมันเกิดดับมันก็จางไป เดี๋ยวมันก็เกิดขึ้นใหม่แต่ผู้ที่ได้รับผลของกรรมๆ คือหัวใจดวงนี้ ภวาสวะ ผู้กระทำ
ใจเป็นผู้กระทำใช่ไหมถ้าเราไม่คิดไม่นึก เราจะพูดได้ไหม ถ้าเราไม่คิดไม่นึก เราจะทำได้ไหม เพราะเราคิดเรานึกมาทั้งนั้นแหละ ไอ้คิดนึกนี่นายช่างใหญ่ ถ้านายช่างใหญ่นะ เป็นอวิชชา มันก็ทำให้เราเหลวไหล ถ้าเป็นวิชชาล่ะ ถ้าเป็นธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าล่ะ
นายช่างที่ดีงามเขาก็สร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมา เรา เราเป็นชาวพุทธ ที่เราจะประพฤติปฏิบัติ เราก็ต้องมีศีล มีสมาธิ มีปัญญา นายช่างที่ดี นายช่างที่ดีเขาปลูกสร้างสิ่งที่ดีงามขึ้นมาในหัวใจของเรา ถ้าปลูกสร้างขึ้นมาในหัวใจนี่เป็นวิชชา วิชชามันจะไปหักล้างอวิชชา ถ้าอวิชชา ถึงที่สุด อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา สงฺขาราปจฺจยาวิญฺาณํ มันเป็นอวิชชา มันเป็นกิเลสตัณหาความทะยานอยาก มันทำแต่ให้เราทุกข์เรายากทั้งนั้นน่ะ แต่มันมีวิชชา วิชชาคือธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ธรรมะเป็นธรรมชาติธรรมะเป็นธรรมชาติ ธรรมะเป็นขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะมันเป็นทฤษฎี เป็นสัจธรรม เป็นที่สาวกสาวกะ ผู้ที่ได้ยินได้ฟัง เกิดมาพบพระพุทธศาสนา เกิดมาคือเกิดมาท่ามกลางสัจธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสัจธรรมอันนี้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นผู้รื้อค้นขึ้นมา แล้วองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นคนวางไว้ นี่ธรรมโอสถที่สามารถจะชำระล้างกิเลสได้
ธรรมโอสถเป็นโอสถที่เข้าไปทำลายกิเลสอวิชชาในหัวใจของเราได้แล้วมันอยู่ไหนอยู่ในตำรา มีตำรา มีแต่ฉลากยา เราก็ศึกษาๆศึกษามา ธรรมะเป็นธรรมชาติธรรมะเป็นธรรมชาติ ธรรมะอยู่ข้างนอก แต่พวกช่างมันจะสร้างบ้านสร้างเรือนในหัวใจของเรามันทำให้เราพลิกแพลง มันบิดเบือนเราธรรมะเป็นธรรมชาติ ธรรมะเป็นธรรมชาติอยู่ข้างนอกนู่นน่ะ แต่ไอ้หัวใจนี้ ไอ้นายช่างที่มันบิดเบือน นายช่างที่มันทำลายหัวใจนี้มันก็ทำของมันไป ไอ้วัฒนธรรมประเพณีมันก็อยู่ข้างนอกนู่นมารยาท สังคม
แต่ถ้าเป็นความจริงทวนกระแสกลับถ้ามันทวนกระแสกลับขึ้นมา ถ้ามันทวนกระแสกลับเป็นสัจจะความจริงอย่างนี้ ถ้าสัจจะความจริงอย่างนี้นี่ไง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถึงกล้าปฏิเสธหมดเทวดา อินทร์พรหมทั้งนั้นเป็นผู้อุปัฏฐากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ผลของวัฏฏะๆ การเวียนว่ายตายเกิดนี้มีอวิชชาทั้งนั้นแล้วพระเจ้าที่ไหน เราจะไปเคารพบูชาอะไรเราเคารพบูชาตัวเรานี่สิ เราเคารพบูชาหัวใจของเรานี่สิ เราเคารพพุทธะ พุทธะ ผู้รู้ผู้ตื่น ผู้เบิกบานในหัวใจอันนี้ นี่ไง เราดูที่นี่ ถ้าดูที่นี่ ดูที่นี่มันก็ต้องมีวุฒิภาวะ
ขนาดแค่มาวัดมันก็ยังทุกข์ยากขนาดนี้ไม่ต้องมาวัดหรอก แค่เกิดเป็นมนุษย์นี่แหละ เวลาเกิดเป็นมนุษย์นะธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า การเกิดเป็นมนุษย์เป็นอริยทรัพย์มนุษย์มีค่ามากๆเลย
ดูสัตว์นะดูสัตว์สิ ถ้าสัตว์ที่มันดี ดูสิ สุนัขที่มันดีมันติดเจ้าของมันนะ มันปกป้องดูแลเจ้าของมันนะ แต่มันก็จนตรอก มันก็เป็นได้แค่สุนัขนะ มันทำคุณงามความดีได้ มันพิทักษ์เจ้านายมันได้ มันทำประโยชน์ของมันได้ แต่สุนัขมันทำได้เท่านั้นมันไม่สามารถดูสิ มันอยากจะสื่อกับเรามันก็สื่อกับเราด้วยสัญชาตญาณเท่านั้นน่ะ แล้วมนุษย์มันมีสมองมนุษย์มันมีความรู้สึก มนุษย์มันมีปัญญา
โลกนี้ ดูสิความมหัศจรรย์ของโลกนี้ ท่องอวกาศ ยานอวกาศต่างๆใครเป็นคนทำมนุษย์ทั้งนั้น สิ่งที่เราไปทัศนศึกษาๆ ไปดูสิ่งประวัติศาสตร์ไปดูสิ่งมหัศจรรย์ ใครเป็นคนทำล่ะ ถ้ามันเป็นเรื่องธรรมชาตินะ ก็ธรรมชาติตบแต่ง อุทยานแห่งชาติต่างๆธรรมชาติด้วยลม ด้วยอากาศมันกัดเซาะขึ้นมามันเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดเราก็ไปดูมันนะแต่ส่วนใหญ่ที่มนุษย์สร้างมนุษย์สร้างทั้งนั้นน่ะ
นี่ไงมนุษย์มันมีคุณค่า มีคุณค่าที่ตรงนี้ไง ถ้ามีคุณค่าที่ตรงนี้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถึงสอนที่นี่ไงถ้าคนมีอำนาจวาสนานะ ดูสิพระเจ้าอโศกมหาราช กองทัพที่เกรียงไกรยึดครองเขาได้หมดเลย แต่ความยึดครองแล้ว พอมันสะเทือน เห็นการสงครามแล้วมันมีแต่การฆ่าฟันเราชนะ เรามีอำนาจ แต่มันสะเทือนใจ มันสะเทือนใจ พอสะเทือนใจ เราจะเผยแผ่ธรรม เอาธรรมะเข้าไปเพื่อประโยชน์ นี่คนมีปัญญาไง
กองทัพมีทุกอย่างพร้อมมันยึดครองได้หมด แต่สุดท้ายแล้วมันเกิดสงคราม มันเกิดการฆ่าฟัน มันไม่เป็นประโยชน์ นี่ปัญญามันอยู่ตรงนี้ คนที่จะสร้างประโยชน์มันสร้างอยู่ตรงนี้สร้าง มันอยู่ที่ปัญญา มนุษย์ๆมนุษย์มีคุณค่า มีคุณค่าที่นี่ไง
นักวิทยาศาสตร์ที่เขาวิจัยของเขาขึ้นมานั้นก็เป็นวิจัยทางวิทยาศาสตร์ทางโลกของเขาเป็นคุณภาพชีวิตเป็นประโยชน์กับสังคม เป็นประโยชน์กับโลก ประโยชน์กับโลกเพราะเขาทำ ดูสิ พระโพธิสัตว์เขาทำอย่างนั้นน่ะ เวลาพระโพธิสัตว์เขาทำของเขา เขาเสียสละของเขาก็เพื่อประโยชน์ของเขา เป็นหัวหน้าฝูงหัวหน้าสัตว์ต่างๆ เพื่อประโยชน์ทั้งนั้นน่ะ นี่เพื่อประโยชน์ทั้งนั้นน่ะ
เวลามันมีกำลังอย่างนั้น มีสติปัญญาอย่างนั้น มันถึงทวนกระแสได้ไงเพราะทวนกระแส ดูองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเห็นคนเกิด คนแก่คนเจ็บ คนตายเราต้องเป็นเช่นนี้ด้วยหรือ แล้วองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็วางพระพุทธศาสนาวางวัฒนธรรมของชาวพุทธเราเวียนโบสถ์ ๓รอบ กามภพ รูปภพ อรูปภพ เวลาคนตาย เอาน้ำมะพร้าวล้างหน้าเขาเตือนคนเป็นทั้งนั้นนะ เขาเตือน วัฒนธรรมพยายามจะเตือนเรานะ ให้เรามีสติได้ยั้งคิดว่าชีวิตนี้ วันนี้เรามาล้างหน้าศพ แล้วต่อไปใครจะล้างหน้ากูวะ กูนี่จะให้ใครล้างหน้านี่เวลาคิดมันคิดได้แค่นี้ แต่ทำไมเราจะไม่เกิดอีกล่ะ ถ้าเราจะไม่เกิดอีก เราไม่ต้องมาเป็นอย่างนี้อีก นี่ถ้าคิดได้อย่างนี้
โลกธรรม๘ มีลาภเสื่อมลาภ มียศเสื่อมยศ สิ่งที่เราแสวงหา เราแสวงหา คนดีนะคนที่มีวาสนา มันรู้หน้าที่ หน้าที่ของเรา เราก็ต้องมีหน้าที่การงานเพื่อหาปัจจัยเครื่องอาศัยใช่ไหม หน้าที่ของพระ พระเห็นภัยในวัฏสงสารพระมาบวชพระบวชพระ หน้าที่ของพระต้องภิกขาจาร ต้องบิณฑบาตเป็นวัตร
การบิณฑบาตนั้นได้เห็นโลกธรรมไงคนที่เขามาใส่บาตรทุกข์จนเข็ญใจก็มีเศรษฐีกุฎุมพีก็มีมันมีแตกต่างหลากหลาย มันเป็นเทศน์ทั้งนั้นน่ะถ้าคนมีสติปัญญา มันจะเทศน์สอนคนคนนั้นไง เขาอาบเหงื่อต่างน้ำ เขาหาของเขามาแล้วทำไมเขามาเสียสละล่ะ เขาเสียสละเพื่อหัวใจของเขา
ไอ้เรา เราเห็นภัยในวัฏสงสาร เราบวชเป็นพระ เราบวชเป็นพระหน้าที่ของเราเราบิณฑบาตเป็นวัตร เราบิณฑบาตเลี้ยงชีพ มันเป็นงานไง เว้นไว้แต่ไม่ฉัน ไม่ฉันคือพยายามต่อสู้กับกิเลส ไม่ต้องบิณฑบาต แล้วถ้าบิณฑบาต มันเกิดปัญญา มันเป็นหน้าที่ คนที่มีปัญญาเขามีหน้าที่ของเขา แล้วหน้าที่ของเราหน้าที่หาปัจจัยเครื่องอาศัยใช่ไหม แล้วหน้าที่ของเรา เราจะให้ใครเฉาะมะพร้าวล้างหน้าเรา ศพนี้จะให้ใครล้างหน้า ถ้าเราจะมีคุณธรรมของเรา เราจะเอาสัจธรรมล้างหัวใจของเราไง
นายช่างใหญ่ผู้ที่สร้างบ้านสร้างเรือนบนหัวใจนี้ เราทำความสงบของใจเข้ามาทำความสงบของใจเข้าไปภวาสวะ ที่ตั้งของบ้านเรือนนั้น ถ้าที่ตั้งของบ้านเรือนนั้น เรามีสติปัญญาเข้าไปด้วยสติปัญญาของเรานะ ด้วยธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราใช้ปัญญาของเราแยกแยะของเรา วิปัสสนาญาณมันเกิดขึ้นถ้าวิปัสสนาญาณเกิดขึ้น มันทำลายอวิชชาทำลายเรือนยอดของความโลภความโกรธความหลง
ความโลภ ความโกรธความหลงเป็นแม่ทัพใหญ่ความโลภ ความโกรธ ความหลงกามราคะ ปฏิฆะเป็นแม่ทัพใหญ่แต่มันมีอวิชชาเรือนยอดของเรือน ๓ หลังนั้นนายช่างใหญ่ผู้ก่อสร้างบ้านเรือนบนหัวใจดวงนี้ เราได้ทำลายแล้ว
แต่เราไม่เคยเห็น เราเห็นแต่นายช่างจอมปลอมมันสร้างให้ สร้างอารมณ์ให้ สร้างความรู้สึกให้ สร้างแต่ความรู้สึกนึกคิดให้ นี่อวิชชา แล้วถ้าเราจะรู้ว่านายช่างนั้นปลอมหรือนายช่างนั้นมีศีลธรรม นายช่างนั้นจะมีคุณงามความดี เราต้องทำความสงบของใจเข้ามา
ถ้าทำความสงบของใจเข้ามา เรามาคัดเลือกเอาว่าเราจะเอาช่างฝ่ายวิชชาหรืออวิชชา ถ้าอวิชชา มันก็เทียบเคียงอยู่อย่างนี้ เทียบเคียงอย่างนี้ด้วยกำลังเราไม่พอมันมีกำลังเหนือกว่า มันครอบงำเราอยู่ แต่ถ้าเราทำความสงบของใจเข้ามา ใจมันสงบแล้วสัมมาสมาธิสัมมา ความถูกต้องดีงาม แล้วคัดเลือก คัดเลือกนายช่างที่ดีถ้าคัดเลือกสิ่งที่ดี เราจะทำคุณประโยชน์กับเรา
ถ้าจิตสงบแล้วเห็นกายเห็นเวทนา เห็นจิต เห็นธรรมตามความเป็นจริง มันพิจารณาของมันขึ้นไป มันวิปัสสนาญาณของมันขึ้นไป นี่หน้าที่ของพระงานของพระ แล้วพระทำงานอย่างนี้ขึ้นมา คนทำงานเป็น คนทำงานเป็นมีกิจจญาณ สัจจญาณมันมีการกระทำมีสัจจญาณ มันมีการกระทำในหัวใจ มีสัจจะมีความจริงในใจนี้ถ้าคนทำงานไม่เป็น คนทำงานไม่เป็นแล้วมันให้นายช่างที่จอมปลอมมาหลอกลวงด้วยนะ อย่างนี้เป็นธรรมๆ ว่างๆว่างๆ
ว่างๆ ก็อวกาศ ลมมันก็ว่าง ว่างๆ มันเป็นประโยชน์อะไร มันต้องมีเหตุมีผลสิ มันทุกข์มันยากเพราะอะไร ถ้ามันว่างขึ้นมา คนมันถึงที่สุด ทุกข์มันถึงที่สุดแล้วมันทนเอา เดี๋ยวมันก็ว่าง มันก็คลาย ถ้าคลายแล้วได้อะไรต่อไป มันไม่เห็นได้อะไรขึ้นมาเลยแต่ถ้ามันมีสติปัญญายับยั้งไว้มันก็มีขันติธรรมมีสติปัญญาก็แค่มารยาทของเราก็แค่เป็นมนุษย์ได้เสมอตน ก็ได้เป็นมนุษย์ ก็ความดีของมนุษย์
แล้วมนุษย์ที่มีอำนาจมีวาสนา ถ้ามันมีสติปัญญาขึ้นไปมันรื้อค้นขึ้นไปธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ปฏิเสธหมดเทวดา อินทร์พรหม พระเจ้าที่ไหนปฏิเสธหมด ปฏิเสธทุกๆอย่างในโลกนี้ปฏิเสธหมด มันเป็นอนิจจัง ไม่มีสิ่งใดคงที่ ใน ๓โลกธาตุนี้ไม่มีอะไรคงที่เลยแล้วใครมันจะช่วยเหลือใครใครมันจะมอบอำนาจให้ใครใครมันจะจุนเจือใคร
ไอ้ที่เป็นเทวดา อินทร์พรหมเพราะว่าอำนาจวาสนาของคนที่ทำมาได้บุญกุศลไปเกิดที่นั่น แล้วเราเป็นมนุษย์มีอำนาจวาสนาเรามีอำนาจวาสนา เทวดาอินทร์ พรหมเป็นแค่เด็กล้างบาตรพระพุทธเจ้า เป็นผู้รับบาตร เป็นผู้คอยอุปถัมภ์ค้ำจุนเพื่ออยากได้บุญกุศลของเขา
ปฏิเสธหมด เอาความจริงในนี้ เอาความจริงในสัจธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ศีล สมาธิปัญญา อริยสัจสัจจะความจริงอันนี้ แล้วมนุษย์ทำได้ มนุษย์ค้นคว้าได้มนุษย์ทำความจริงขึ้นมาแล้วเหนือมนุษย์การเกิดการตายโกหกทั้งนั้นน่ะ โกหกทั้งนั้นน่ะ มันเป็นสมมุติอันหนึ่งแต่เป็นความจริง ความจริงโดยอำนาจวาสนาของคนไง
เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปฏิเสธอย่างนั้น ปฏิเสธอย่างนั้น ไม่ให้คร่ำครวญ ไม่ให้ร้องไห้ ไม่ให้เสียใจสิ่งใดเลย แต่เวลาครูบาอาจารย์ท่านบรรลุธรรมน้ำตาที่ชะล้างภพชาติ อันนั้นมันสังเวช มันสะเทือน โลกธาตุหวั่นไหวธาตุ ๔ กระเทือนเลื่อนลั่น มันกระเทือนให้น้ำตามันไหลพลัดพรากพลัดพรากว่าพอกันที ไม่มาอีกแล้ว พอกันทีมันสะเทือนหัวใจ เห็นไหมอย่างนั้นเป็นน้ำตาล้างภพล้างชาติ มันจะออกมา เกิดจากสัจธรรม เกิดจากธรรมสังเวชมันเป็นธรรมะแล้วมันสังเวชสลดสังเวช มันเป็นโดยสัจจะข้อเท็จจริงน้ำตาอย่างนั้นเป็นประโยชน์กับเรา
แต่น้ำตาที่เจ็บช้ำน้ำใจ ที่มันเจ็บปวดแล้วคร่ำครวญ น้ำตาอย่างนี้น้ำตาของนายช่างจอมปลอม แล้วมันก็หลอกลวงให้เราคร่ำครวญ แต่ถ้าเป็นนายช่างที่ดีงาม ทำเป็นความจริงขึ้นมาธรรมสังเวชนะชะล้างจบ มันจบจริงๆ แล้วพอจบแล้วนะ ปฏิเสธหมด
เทวดาอินทร์ พรหม เราเคยเป็นทั้งนั้นน่ะจิตที่เราอยู่ในร่างกายเคยเกิดในวัฏฏะนี้ จิตนี้เวียนว่ายตายเกิดไม่มีต้นไม่มีปลาย ไม่ใช่ชาตินี้ชาติเดียว มันเวียนเกิดเวียนตายมาตลอด แต่ทีนี้เขาบอกว่าการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ การเวียนว่ายตายเกิดนี้มันเป็นความจริงของมันโดยสัจจะโดยข้อเท็จจริง โดยที่ธรรมะเป็นธรรมชาติแต่เวลานายช่างที่จอมปลอมก็เอาเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดมาเป็นเหยื่อชาติที่แล้วถ้าใครมั่งมีมา ชาติที่แล้วเราเป็นญาติกัน ถ้ายาจกเข็ญใจมา กูไม่รู้จักมึง ถ้ารวยๆมา ชาติที่แล้วมึงกับกูเป็นเพื่อนกันมา แต่ถ้าจนๆมา กูไม่รู้จักเอ็งนะ
มันเป็นความจริงในข้อเท็จจริงในตัวมันเอง แต่เราเชื่อใครล่ะ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปฏิเสธแล้วใช่ไหม ไม่ให้เชื่อแม้แต่เทวดาอินทร์ พรหมแล้วไปเชื่อนายช่างจอมปลอมไปเชื่อไอ้คนที่มาปอกลอกเราได้อย่างไร
มิตรแท้มิตรเทียม คนเทียมมิตร บวชมาแล้วเป็นทิดเป็นบัณฑิต เขาให้ศึกษาเรื่องนี้ถ้ามิตรแท้เขารักเราด้วยความเป็นจริงนะ เขาปกป้องดูแลเรามิตรเทียม ถ้ามีเงินเรียกพี่ มีทองเรียกเพื่อน มีเงินมีทองเป็นเพื่อนกูทั้งนั้นน่ะ ถ้าไม่มีล่ะ ไม่มี ไม่รู้จัก
คบธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คบสัจธรรม ขยันหมั่นเพียรของเรา ถ้าขยันหมั่นเพียรทางโลก ทำสิ่งใดก็ประสบความสำเร็จ ถ้าคนทางโลกประสบความสำเร็จ คนดีมาบวชพระก็เป็นพระดี พระดีคือมีความขยันมีความหมั่นเพียรความเพียรชอบเรากระทำความเพียรขึ้นมา
ความเพียรของเราไม่ถูกต้องดีงาม นี่ความเพียรเราไม่ชอบ งานไม่ชอบ งานไม่ชอบเพียรไม่ชอบ มันก็เข้าสู่สัจธรรมไม่ได้
เราพยายามฝึกฝนของเรา ค้นคว้าของเรา หาวิธีการของเรา ถ้างานชอบ เพียรชอบ ระลึกชอบสติชอบ ปัญญาชอบ ความชอบธรรม องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้เองโดยชอบโดยชอบกับโดยไม่ชอบ
ไม่ชอบธรรมไม่ใช่ของเรา โดยชอบธรรม ไม่มีใครคัดค้านได้อริยสัจสัจจะความจริงขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่มีใครคัดค้าน คัดค้านไม่ได้ ยึดยื้อไม่ได้ ตรัสรู้เองโดยชอบ เอวัง